สอบตรงเข้าทุกมหาวิทยาเลย

       สำรับน้องที่ต้องการสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นคณะไหน ทั้งรัฐและเอกชน ทั้งภาคไทยและอินเตอร์ ก็ตามน้องๆต้องมีความพร้อมมีความถนัดในวิชานั้นๆประกอบไปด้วยความชอบความใฝ่ฝันของน้องๆด้วยการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เราต้องการมีรายละเอียดดังนี้

คอร์สติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย

1) GAT-PAT
2) O-NET
3) ติวสอบ 9 สามัญ
4) SAT
5) IGCSE
6) CU-TEP
7) CU-AAT
8) CU-ATS
9) TU-GET
10) TOEFL
11) IELTS
12) TOEIC
13) Smart 1

คอร์สติวสอบ GAT, PAT 

Admission  คือ ระบบกลางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (CentraI University Admissions System : CUAS) หรือระบบแอดมิสชั่นส์กลาง ที่ใช้ทำการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาปีการศึกษา 2549 แทนระบบเอ็นทรานซ์ที่ใช้อยู่เดิม โดยมีองค์ประกอบเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครเข้าศึกษา ในมหาวิทยาลัย ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้กำหนดองค์ประกอบ และค่าน้ำหนักในการคัดเลือกเข้าศึกษา

ในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาด้วยระบบกลาง (Admissions) ประกอบด้วย

1.GPAX  2. O-NET  3. GAT  4. PAT  รวม 100 %

1. O-NET (Ordinary National Education Test) หรือการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน ในตอนนี้จะพูดถึงการสอบ O-NET ในระดับชั้น ม.6 เพียงอย่างเดียว O-NET ม.6 คือ การวัดผลของโรงเรียนแต่ละโรงเรียนว่า ได้สอนนักเรียนของตัวเองตามหลักสูตรกระทรวงขนาดไหน ข้อสอบ O-NET นี้จะเป็นข้อสอบง่ายๆ ที่วัดเฉพาะพื้นฐานจริงๆ เท่านั้น

2. GAT (Genetal Aptitude Test) หรือมีชื่อเป็นภาษาไทยสั้นๆ ว่า การสอบความถนัดทั่วไป ซึ่งจะเน้นเนื้อหาทางด้าน การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์การแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ รวมไปถึงการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ข้อสอบ GAT นี้จะมีความซับซ้อนมากกว่าความยาก

3. PAT (Professional Aptitude Test) หรือมีชื่อเป็นภาษาไทยสั้นๆว่า การสอบความถนัดเฉพาะด้าน/วิชาการ เป็นข้อสอบที่ยากที่สุดในสามตัวที่พูดถึง วิชาเฉพาะด้านที่มีสอบคือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พื้นฐานวิศวกรรม พื้นฐานสถาปัตยกรรม พื้นฐานความเป็นครู และวิชาด้านภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ

ความถนัดทั่วไป (GAT : General Aptitude Test/ 300 คะแนน/เวลาสอบ 3 ชม.) คือ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ

1. เนื้อหา 
– การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์และการแก้โจทย์ปัญหา (ทาง คณิตศาสตร์) 50% หรือ 150 คะแนน
– การสื่อสารด้วยภาษา อังกฤษ (Vocabulary, Structure/Writing, Reading Comprehensive) 50% หรือ 150 คะแนน
2. ลักษณะข้อสอบ
– ข้อสอบปรนัย และอัตนัยที่ตอบแบบปรนัย
– ข้อสอบ เน้น Content Free และ Fair
– เน้นความซับ ซ้อน (Complexity) มากกว่า ความยาก
ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT : Professional and Academic Aptitude Test/ 300 คะแนน/เวลาสอบ 3 ชม.) คือ ความรู้ที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนต่อ กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้นๆ ให้ประสบความสำเร็จ มี 7 ประเภท

– PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์

      เป็นโจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในการสอบ Admission (ยากกว่าข้อสอบ O-Net และ 9วิชาสามัญ) นักเรียนคนไหนที่ได้คะแนนสูงๆ ถือว่ามีทักษะด้านคณิตศาสตร์ที่ดีมากๆ เนื้อหาของข้อสอบ ประกอบด้วยบทเรียนของคณิตศาสตร์พื้นฐาน (คณิตศาตร์หลัก) และคณิตศาสตร์เสริม ทั้งหมด 17 บท ซึ่งบทเรียนที่มีเนื้อหาซับซ้อน และปริมาณมากๆ ก็จะใช้ออกข้อสอบในปริมาณที่มากตามไปด้วย เช่น เอกซ์โพแนนเชียลและลอการึทึม ความน่าจะเป็น ตรีโกณมิติ แคลคูลัส สถิติ ลำดับและอนุกรม กลุ่มคณะที่ใช้ เช่น กลุ่มคณะวิทยาศาสตร์กายภาพ กลุ่มเกษตร-วนศาสตร์ กลุ่มบริหาร-บัญชี เศรษฐศาสตร์ 

– PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์

      เนื้อหาของข้อสอบ ประกอบด้วย 4 วิชา คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และ ดาราศาสตร์ โดยจำนวนข้อสอบของวิชา ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา แต่ละวิชามีจำนวนข้อที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน (25-35%) ส่วนดาราศาตร์จะมีจำนวนข้อที่น้อยสุด (10-15%) เนื่องจากข้อสอบ PAT2 ประกอบด้วย 4 วิชาด้วยกัน มีผลทำให้นักเรียนจำนวนมาก เลือกทำเฉพาะวิชาที่ตนเองได้เตรียมตัวมา ดังนั้น PAT2 ถือว่ามีความยากอยู่พอสมควร เพราะปริมาณที่มากของบทเรียนในการออกข้อสอบมี คณะที่ใช้ เช่น กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ กลุ่มวิทยาศาสตร์กายภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์

PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์

       เนื้อหาของข้อสอบ ประกอบด้วย 3 วิชา คือ ฟิสิกส์ (เน้นเรื่องของไหล แสง เสียง ภาคกลศาสตร์ และไฟฟ้า) เคมี (เน้นคำนวณ เช่น ปริมาณสารสัมพันธ์ กรด-เบส แก๊ส รวมถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม) คณิตศาสตร์ (เน้นเรื่องแคลคูลัส สถิติ) รวมถึงการมองภาพ3มิต ิ(isometricพื้นฐาน) ก็เป็นข้อสอบด้วยเช่นกัน มีคณะเดียวที่ใช้ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์

– PAT 4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์

        เนื้อหาของข้อสอบ เกี่ยวกับ isometric(PLAN PRONT SIDE)  แนวข้อสอบตรรกะ ความรู้ทั่วไป และให้วาดรูป (perspective) มีคณะเดียวที่ใช้ คือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

– PAT 5 ความถนัดทางวิชาชีพครู 

        มีคณะเดียวที่ใช้ คือ คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์

– PAT 6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์

        เนื้อหาเกี่ยวกับ ทฤษฎีศิลปะ ทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏยศิลป์ มีคณะที่ใช้ คือ คณะศิลปกรรมศาสตร์ (วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์) ดุริยางคศิลป์ และนาฏยศิลป์

– PAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ

แบ่งออกเป็น 6 หมวด ดังนี้

7.1 ภาษาฝรั่งเศส      7.2 ภาษาเยอรมัน        7.3 ภาษาญี่ปุ่น
7.4 ภาษาจีน            7.5 ภาษาอาหรับ         7.6 ภาษาบาลี

      มีคณะที่ใช้ เช่น กลุ่มการโรงแรมและท่องเที่ยว กลุ่มมนุษย์ฯ-อักษรฯ-สังคมศาสตร์ สำหรับการสอบ GAT PAT ค่อนข้างจะอิสระพอสมควร  ทุกคนมีสิทธิในการสอบหมด ทั้ง ม.6 เด็กซิ่ว หรือสายอาชีพ และจะสมัครกี่ครั้งก็ได้ (ปีนึงมี 2 ครั้ง) โดยอายุของคะแนนสอบ GAT  PAT อยู่ได้ 2 ปี  นั่นหมายความว่า หาก ม.6 ปีนี้ อยากซิ่วในปีหน้า คะแนนของปีนี้ก็ยังใช้ได้ โดยในการสมัครแอดมิชชั่นกลางจะมีระบุไว้ว่าใช้รอบใดได้บ้าง และในรับตรงบางคณะ จะกำหนดไว้ว่าใช้คะแนนรอบไหนได้บ้าง สามารถสมัตรสอบ Gat Pat


การสอบรับตรงจุฬา เกษตร ธรรมศาสตร์ มหิดล มศว

– ข้อมูลการสอบรับตรงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
http://admission2.atc.chula.ac.th/
– ข้อมูลการสอบรับตรงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
http://registrar.ku.ac.th/direct-admission
– ข้อมูลการสอบรับตรงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
http://web.reg.tu.ac.th/registrar/home.asp
– ข้อมูลการสอบรับตรงมหาวิทยาลัยมหิดล
http://www.mahidol.ac.th/quota2013/1.html
– ข้อมูลการสอบรับตรงมหาวิทยาลัย มศว ประสานมิตร
http://admission.swu.ac.th/

 

น้องๆที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเราสามารถติดต่อเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นไลน์เฟชบุ๊คโทรศัพท์ทุกช่องทางหรือมาทดสอบกับทางสถาบันฟรี โดยมีผู้เชี่ยวชาญแนะแนวทางการศึกษาของน้องๆ ได้ถูกต้องเหมาะสม เพราะเพื่อความสำเร็จในการเรียนของน้องๆคือเป้าหมายของทีมงานเรา SMART TUTOR